JavaScript Postback Code Integration คืออะไร?
JavaScript Postback คือสคริปต์ขนาดเล็กที่ทำงานในเบราว์เซอร์ โดยจะถูกวางไว้บนหน้าเว็บไซต์หรือหน้าแลนดิ้งเพจ มีหน้าที่ในการทริกเกอร์อีเวนต์ที่กำหนดไว้และส่งข้อมูลการติดตามกลับไปยังเครือข่ายโฆษณา เครื่องมือ Tracker หรือแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล สามารถใช้ติดตามพฤติกรรมและการกระทำของผู้ใช้ รวมถึงเก็บข้อมูลจากฝั่งเบราว์เซอร์ได้
การติดตามแบบ Client-side ประเภทนี้ถือเป็นหนึ่งในวิธีการเชื่อมต่อที่เก่าแก่และเรียบง่ายที่สุด และถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในแพลตฟอร์มโฆษณาดิจิทัล ตั้งแต่ Google Ads และ Meta ไปจนถึงเครือข่ายแอฟฟิลิเอตและแพลตฟอร์ม AdTech อย่าง HilltopAds
ทำงานอย่างไร?
การติดตามด้วย JavaScript Postback ทำงานโดยการรันสคริปต์ขนาดเล็กในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ ซึ่งจะส่งข้อมูลไปยังแพลตฟอร์มโฆษณาหรือแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล โดยกระบวนการสามารถอธิบายเป็นขั้นตอนง่าย ๆ ได้ดังนี้:
มีการเพิ่ม JavaScript snippet ลงในหน้าเว็บ
โดยปกติจะวางไว้ที่ส่วนท้ายของแท็ก<body>เมื่อผู้ใช้โหลดหน้าเว็บ เบราว์เซอร์จะทำการรันสคริปต์
พิกเซลจะดึงข้อมูลที่จำเป็น เช่น พารามิเตอร์ใน URL (เช่น clickId), คุกกี้, user agent, IP หรือ referrer
สคริปต์จะสร้าง URL สำหรับส่งคำขอ โดยรวมพารามิเตอร์ของอีเวนต์ที่เกี่ยวข้อง
เบราว์เซอร์จะส่งคำขอไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแพลตฟอร์มโฆษณา
เครือข่ายโฆษณาจะบันทึกอีเวนต์และเชื่อมโยงกับคลิกหรือเซสชันที่ถูกต้อง
ตัวอย่าง: JavaScript Postback Code ของ HilltopAds
snippet นี้จะส่งอีเวนต์คอนเวอร์ชันโดยใช้ clickId ที่ส่งมาผ่าน URL:
<script>
const urlParams = new URLSearchParams(window.location.search),
clickId = urlParams.get('clickId');
const postbackUrl = "https://trackhta.com/close/?token="
+ clickId + "&price=price¤cy=currency&label=label&advertiserId=";
console.log(postbackUrl);
fetch(postbackUrl)
.then(function(response) {
console.log('Postback successful:', response);
})
.catch(function(error) {
console.error('Error during postback:', error);
});
</script>
โดยทั่วไป snippet นี้จะถูกวางไว้บนหน้า Thank You หรือหน้าคอนเฟิร์มคอนเวอร์ชัน (เช่น “ขอบคุณสำหรับการสั่งซื้อ!”) เพื่อให้แน่ใจว่าอีเวนต์จะถูกส่งหลังจากผู้ใช้ทำรายการเสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น
ข้อจำกัดของ JavaScript Postback (สำคัญมาก!)
แม้จะใช้งานได้สะดวก แต่การติดตามด้วย JS Pixel ก็มีข้อจำกัดที่ควรคำนึงถึงดังนี้:
ข้อจำกัด | เหตุผลที่สำคัญ |
อาจถูกบล็อกโดย Ad Blocker | ผู้ใช้ประมาณ 30–40% ป้องกันไม่ให้พิกเซลทำงาน |
ได้รับผลกระทบจากกฎความเป็นส่วนตัวของเบราว์เซอร์ (ITP) | Safari และ iOS จำกัดการใช้คุกกี้และการติดตามฝั่ง Client-side อย่างเข้มงวด |
ขึ้นอยู่กับการทำงานของ JavaScript | ข้อผิดพลาดของสคริปต์ การเชื่อมต่อที่ช้า หรือทรัพยากรถูกบล็อกอาจทำให้การติดตามล้มเหลว |
ความแม่นยำน้อยกว่า S2S | ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะทำงานในทุกสถานการณ์ |
ผู้ใช้อาจปิดหน้าเว็บเร็วเกินไป | หากหน้าเว็บโหลดไม่เสร็จ พิกเซลจะไม่ถูกเรียกใช้งาน |
ด้วยปัญหาด้านความน่าเชื่อถือเหล่านี้ ผู้ลงโฆษณาในอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูง (เช่น iGaming, การเงิน, การเดิมพัน และคริปโต) มักเลือกใช้การเชื่อมต่อแบบ S2S Postback เป็นวิธีหลัก และใช้ JavaScript Pixel เป็นเพียงตัวสำรองหรือสำหรับติดตามอีเวนต์เพิ่มเติมเท่านั้น
ควรวางโค้ดไว้ที่ใด?
วิธีการติดตั้งที่ใช้กันมากที่สุดและแนะนำคือการวางสคริปต์ไว้บนหน้าคอนเฟิร์มคอนเวอร์ชัน
เพิ่ม snippet ไว้ที่ด้านล่างของหน้าเว็บ ก่อนแท็กปิดดังนี้:
</body>
</html>
สรุป
JavaScript Postback เป็นวิธีบันทึกคอนเวอร์ชันที่เรียบง่าย รวดเร็ว และรองรับได้หลากหลายแพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้พิจารณาใช้แพลตฟอร์มติดตามแบบเฉพาะทางหากเป็นไปได้ เนื่องจาก Tracker จะช่วยให้การระบุแหล่งที่มาของคอนเวอร์ชันมีความแม่นยำ ป้องกันการสูญเสียข้อมูล และมอบความสามารถด้านการวิเคราะห์และการปรับแต่งขั้นสูงที่สคริปต์ฝั่ง Client-side ไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง โปรดดูคู่มือ Postback ของเราเพื่อเลือกโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด!
